พระเจ้าโมฮัมเหม็ด ซาเฮียร์ ชาห์
พระเจ้าโมฮัมเหม็ด ซาเฮียร์ ชาห์

พระเจ้าโมฮัมเหม็ด ซาเฮียร์ ชาห์

พระเจ้าโมฮัมหมัด ซาเฮียร์ ชาห์ (15 ตุลาคม พ.ศ. 2457 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2550) เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรอัฟกานิสถาน ครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 จนกระทั่งทรงสละราชสมบัติในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2516[1] ในรัชสมัยของพระองค์มีการเจริญความสัมพันธไมตรีกับหลายนานาชาติ และสานสัมพันธไมตรีกับประเทศในสงครามเย็นทั้งสองฝ่าย[2] ในรัชสมัยของพระองค์มีการพัฒนาชาติให้ทันสมัยและเจริญรุ่งเรือง และได้ปกครองโดยระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ก่อนจะถูกปฏิวัติในเวลาต่อมาระหว่างที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศอิตาลี พระองค์ถูกล้มล้างราชวงศ์จากการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งนำโดยพระญาติของพระองค์คือ โมฮัมเหม็ด ดาวูด ข่าน และเปลี่ยนระบอบเป็นสาธารณรัฐ[3] พระองค์ประทับอยู่ที่กรุงโรม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2545 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศอัฟกานิสถานหลังจากสิ้นสุดการปกครองของตาลีบัน พระองค์ถูกขนานนามว่าบิดาแห่งอัฟกานิสถาน และดำรงสถานะดังกล่าวจนกระทั่งเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2550[4]

พระเจ้าโมฮัมเหม็ด ซาเฮียร์ ชาห์

พระราชบุตร 8 พระองค์
ราชวงศ์ ราชวงศ์บารัคไซ
พระราชมารดา มาร์ ปะวาห์ เบกุม
พระราชบิดา พระเจ้าโมฮัมเหม็ด นาดิร ชาห์
สวรรคต 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 (82 ปี)
คาบูล, อัฟกานิสถาน
ถัดไป เจ้าชายอาหมัด ชาห์ ข่าน มกุฎราชกุมารแห่งอัฟกานิสถาน
ประสูติ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2457
คาบูล, เอมิเรตส์แห่งอัฟกานิสถาน
ก่อนหน้า พระเจ้าโมฮัมหมัด นาดิร ชาห์
ฝังพระศพ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
เขามารันจัน
ครองราชย์ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
คู่อภิเษก สมเด็จพระราชินีฮุไมรา เบกุมแห่งอัฟกานิสถาน
ศาสนา ศาสนาอิสลามนิกายซุนนี

แหล่งที่มา

WikiPedia: พระเจ้าโมฮัมเหม็ด ซาเฮียร์ ชาห์ http://www.britannica.com/eb/article-9078202/Moham... http://www.foxnews.com/story/0,2933,290595,00.html http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/south_asia/157318... http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/1573181.stm http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/1936041.stm http://observer.guardian.co.uk/waronterrorism/stor... https://gulfnews.com/today-history/april-18-2002-z... https://www.nysun.com/obituaries/mohammad-zahir-sh... https://www.nytimes.com/2007/07/23/world/asia/23cn... https://www.nytimes.com/2007/07/24/world/asia/24sh...